ME story (1)

เพื่อนๆเคยนึกรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับโชคชะตาชีวิตไหมครับ พูดง่ายๆว่าแอบอิจฉาคนบางคนที่ที่บ้านเขามีธุรกิจเป็นของตัวเอง มีรถดีๆขับ ผมยอมรับเลยว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความรู้สึกนี้อยู่ แต่แทนที่จะมัวมานั่งตัดพ้อกับชีวิต ผมเลยเอาความอยากได้ อยากมี อยากเป็นแบบนั้น (Ambitious) มาเป็นพลังในการกำหนดเป้าหมายชีวิตของผม ถึงแม้วันนี้ผมยังอยู่ในก้าวแรก แต่ผมก็จะพยายามไปให้ถึง หรืออย่างน้อยให้ได้ใกล้ความฝันของผมให้มากที่สุด

จุดเปลี่ยนของชีวิต

ย้อนมาดูชีวิตผมนิดนึงครับ ผมได้ถูกปลูกฝังให้มุ่งมาทางสายวิทย์ อันที่จริงอาจเรียกได้ว่าถูกปลูกฝังให้ไปทางด้านวิศวกรรมตั้งแต่ต้น และผมก็เรียนไปตามนั้นมาโดยตลอด สุดท้ายผมก็ได้รับใบปริญญามาหนึ่งใบในสาขาวิศวกรรมโยธา และด้านพลังงานอีกหนึ่งใบสำหรับปริญญาโท ลองนึกดูซิครับคนที่เรียนมาด้านวิศวกรรมแบบนี้จะชอบอะไรที่เกี่ยวกับด้านบริหารหรือไม่ บางคนอาจจะสนใจ แต่สำหรับผมนั้นต้องขอสารภาพตามตรงว่าไม่เคยมีอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาย ผมเกลียดการขายมาก เรียกว่าฆ่ากันให้ตายเลยดีกว่า ถ้าใครจะให้ผมไปขายของ ใครเคยมีความรู้สึกแบบนี้มั้ยครับ ผมเชื่อว่ามีอยู่หลายคนที่รู้สึกแบบผม ถึงแม้ไม่ต้องเรียนมาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ แต่เพื่อนๆเชื่อมั้ยว่างานแรกที่ผมทำคือเซลส์แมน และไม่ใช่ผมไม่มีทางเลือกนะครับ แต่ผมจงใจเลือกตำแหน่งหน้าที่นี้เลย ทีนี้เพื่อนๆอาจจะมีคำถามในใจ ทำไมไอ้คนที่เกลียดงานขายอย่างผมเนี่ยถึงเลือกไปเป็นเซลส์แมนได้ เรื่องมันเริ่มมาจากหลังจากที่ผมจบการศึกษามาใหม่ๆ เป็นเด็กหนุ่มไฟแรง (ตอนนั้นยังเด็กน่ะครับ) อยากทำงานตามที่เราจบมา แต่มีอยู่วันหนึ่งผมก็นัดเจอกับเพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกัน เราพูดคุยกันตามปกติ ทักทายกัน แน่นอนหัวข้อที่คุยในช่วงนั้นก็คือ "ได้งานยังวะ" ถือได้ว่าเป็นคำถามยอดฮิตเลยทีเดียว แล้วเพื่อนผมคนนึงก็ถามขึ้นมา "มึงได้อ่านหนังสือ พ่อรวยสอนลูก (Richdad Poordad) ยังวะ" ซึ่งตอนนั้นถือได้ว่าเป็นช่วงเริ่มต้นของกระแส หนังสือชุดของ Robert Kiyosaki และนั่นเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงของชีวิตผม หนังสือเล่มนั้นทำให้ผมเปลี่ยนความคิดไปโดยสิ้นเชิง จากคนที่เกลียดการขายเข้าไส้ (ที่จริงเรียกว่ากลัวการขายมากกว่า) กลับสมัครงานที่แรกในตำแหน่ง Marketing Representative (ชื่อฟังดูดีมั้ยครับ) ทำหน้าที่ออกไปขาย service ของบริษัท ผมเชื่อว่าหลายคนก็คงเคยอ่านหนังสือของ Robert มาบ้างแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน เดี๋ยวผมจะเล่าคร่าวๆให้ฟังว่าเนื้อหาในหนังสือนั้นเป็นอย่างไร ทำไมเปลี่ยนความคิดของผมได้