ทีโอทีขอ ‘ดร.มั่น’ เป็นตัวกลางเจรจาซื้อไทยโมบาย

เดินหน้าสร้างรายได้เปิดบริการ “TOT Net call” ดูดกลุ่มวัยโจ๋

“กิตติพงศ์” เผยลูกค้าไทยโมบายถดถอยเหลือเพียง 3 หมื่นราย วอน “ดร.มั่น” ขอความชัดเจนอนาคตไทยโมบายช่วยเป็นสื่อกลางเจรจาซื้อหุ้นคืนจาก กสทฯ หลังเจรจาไม่ลงยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปี มั่นใจธุรกิจมือถือ 3 จีมีอนาคต เตรียมพร้อมเป็นเน็ตเวิร์ก โพรไวเวอร์ ฝันหวานปีแรกเปิดบริการลูกค้าทะลุ 3 ล้านราย พร้อมเดินหน้าสร้างรายได้เปิดบริการ “TOT Net call” คุยโทรศัพท์ผ่านเน็ตเอาใจวัยโจ๋ มั่นใจภายใน 3 ปี รายได้ทะลุ 100 ล้านบาท

นายกิตติพงศ์ เตมียประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางกิจการร่วมค้าไทยโมบายยังให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์ “ไทยโมบาย” แต่ลูกค้าได้ปรับตัวลดลงจนปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 30,000 เลขหมายเท่านั้น

ซึ่งในส่วนของทีโอทีเองเห็นว่ากลยุทธ์ธุรกิจที่มุ่งสู่การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระยะที่ 3 หรือ 3จีนั้น ยังมีความจำเป็น และมีผลต่อรายได้ขององค์กรในอนาคต ดังนั้นจึงอยากให้ นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ ไอซีที ให้ความชัดเจนกับเรื่องการลงทุนดังกล่าว รวมทั้งควรเป็นสื่อกลางในการเจรจาซื้อหุ้นคืนจากบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ แคทเทเลคอม

เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ทั้งที่มีการเจรจากันมาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งส่งผลให้แผนที่ทีโอทีจะก้าวไปสู่การเป็นเน็ตเวิร์ก โพรไวเวอร์ในการให้เช่าโครงข่ายโทรศัพท์ระบบ3จีกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยไม่มีการลงทุนโครงข่ายซ้ำซ้อน ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่มีการเปลี่ยนคณะกรรมการ (บอร์ด) ของทีโอที และแคทเทเลคอม ก็น่าจะทำให้การเจรจาเป็นไปด้วยดี เนื่องจากนายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธ์ ประธานบอร์ดแคทเทเลคอมคนปัจจุบัน เคยบริหารงานทีโอทีมาก่อน น่าจะเข้าใจปัญหาต่างๆ ซึ่งทีโอทีเชื่อมั่นว่า หากได้เดินหน้าทำธุรกิจโทรศัพท์ เคลื่อนที่จะประสบความสำเร็จ เพราะกลุ่มลูกค้าของมือถือ 3 จี จะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับบน ทำให้ทำตลาดได้ง่าย และมีรายได้ต่อเลขหมายสูงกว่า

ซึ่งทีโอทีคาดว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ในการอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจ และคาดว่าหลังเปิดบริการจะมีลูกค้าในปีแรกไม่น้อย กว่า 3 ล้านราย

นายสายัณห์ ถิ่นสำราญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเปิดตัวบริการ VoIP ภายใต้ชื่อ ทีโอที เน็ตคอล (TOT Net call) บริการโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งในและระหว่างประเทศราคาประหยัด

โดยบริษัทเปิดตัวบริการ 2 ระบบ คือระบบโพสต์เพด และระบบพรีเพด ซึ่งระบบโพสต์เพดมีให้เลือก 4 แพ็กเกจ คิดอัตราค่าใช้บริการเป็นครั้ง โดยบริษัทจะขยายเข้าสู่กลุ่มลูกค้าองค์กร ส่วนระบบพรีเพด จะเป็นการใช้บริการผ่านบัตรเติมเงินมีให้เลือก 4 แพ็กเกจ โดยบริษัทจะขยายเข้าสู่กลุ่มลูกค้าทั่วไป โดยค่าบริการในประเทศเฉลี่ยที่ 1 บาท/ครั้ง และต่างประเทศเฉลี่ยที่นาทีละ 0.25 บาท

นอกจากนี้ ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายบัตรเติมเงิน ทีโอทีพรีเพด จะจำหน่าย ผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ศูนย์บริการลูกค้าทีโอที ร้าน 7-Eleven ร้านแมคโดนัน ร้าน แฟมิลี่มาร์ท และเว็บไซต์ totservice.com โดยขณะนี้มีลูกค้าพรีเพดที่เข้ามาลงทะเบียนแล้วกว่า 5,000 ราย ส่วนผู้ใช้บริการแบบโพสต์เพดยังมีไม่มากนัก ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทอยู่ระหว่างการทำตลาดและคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต และขณะนี้ทางทีโอทีได้เปิดให้ใช้บริการฟรีถึงเดือนสิงหาคม 2551

ส่วนบริการเน็ตคอลขณะนี้ถือว่า ยังไม่เข้ามาแทนที่โทรศัพท์พื้นฐาน แต่อาจจะเข้ามาแทนที่ได้ในอนาคตอีก 3-4 ปีข้างหน้า เนื่อง จากจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มผู้พัฒนาคอนเทนต์มีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันรายได้จากการใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐานเฉลี่ยอยู่ประมาณ 350 บาท/เลขหมาย/เดือน ส่วนที่เป็นองค์กรจะมีรายได้เฉลี่ยกว่า 600 บาท/เลขหมาย/เดือน และมีอัตราการใช้งานลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้ทางออนไลน์มากขึ้น

ทั้งนี้ ทีโอทีคาดว่ารายได้ในปีแรกไว้ที่ 20 ล้านบาท และในปีต่อไป 50 ล้านบาท และในปีที่ 3 จะมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งการที่บริการเป็นที่นิยมเนื่องจากมีความสะดวก สบาย และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่มีชีวิตออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บริการ VoIP เติบโตตามอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มลูกค้าบรอดแบรนด์ของบริษัท ที่ปัจจุบันมีฐานลูกค้าจำนวน 420,000 ราย โดยเฉลี่ยต่อเดือนบริษัทจะมีลูกค้าใหม่เดือนละกว่า 30,000 ราย

NP
______________________________________________
NPmestory
BlogmeLink
NPgameStation
MVstation

Comments