#NPLIFESTYLE ดูมาแล้วเลยแวะมารีวิว Maleficent : Mistress of Evil


Well well ... Maleficent : Mistress of Evil ภาคใหม่นี้ทิ้งระยะเวลาจากภาคก่อนหน้าถึง 5 ปีด้วยกัน (เอาจริงๆไม่คิดว่าจะทำภาคใหม่ออกมาด้วยซ้ำ) ตอนเห็นตัวอย่างแรกๆ ก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าจะเล่าเรื่องออกไปยังไง เพราะภาคที่แล้วก็ดูจบอย่างสวยงามแฟรี่เทลมากๆ​

และเมื่อเข้าไปดูมาแล้ว ผมมีความรู้ว่าเนื้อหาของภาคนี้ก็ยังคงไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด แค่ดูซีเรียสขึ้น ดูโตขึ้น ฉากแอคชั่นมากขึ้น แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้ยังคงเน้นคือความรักระหว่าง Maleficent และ ออโรร่า ราชินีแห่งมัวร์ รับบทโดย 'แอล แฟนนิง' หน้าตานางไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยังดูเหมือนตอนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะตอนนางยิ้ม โลกสดใสขึ้นมาทันที ส่วนตัวคุณแม่ (แองเจลิน่า โจลี่) ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเช่นกัน ยังคงสวยและดูสง่าเหมือนเดิม และในภาคนี้เราจะได้เห็นเผ่า “ดาร์กเฟย์” ซึ่งเป็นเผ่าของ Maleficent เผ่าพันธุ์ของเทพมีปีก อ่อ แต่เจ้าชายฟิลลิปเปลี่ยนคนเล่นนะ ภาคก่อนหน้าเป็น 'เบรนตัน ทเวทส์' ที่หน้าเหมือน 'ณเดชน์ คูกิมิยะ' แต่เนื่องจากติดถ่ายซีรี่ส์ Titan ของ DC เลยมาเล่นให้ไม่ได้ ก็เลยมาเป็น 'แฮร์ริส ดิคคินสัน' มารับบทนี้แทน


ขอสรุปแบบนี้ละกัน ถึงแม้จะดูซีเรียสขึ้นแต่ก็ยังคงความเป็นแฟรี่เทลไว้ได้เป็นอย่างดีนะครับ

เรื่องนี้ผมดูโรง IMAX บอกเลยว่าภาพมันสวยงามสุดๆเลยครับ โดยเฉพาะฉากในป่าแห่งอาณาจักรมัวร์ แสงสีมันแฟนตาซีมากครับ แนะนำว่าควรดู IMAX เลยครับ (ลองพิมพ์หาส่วนลดค่าบัตนใน Google หรือ Facebook ดูนะครับ)


Comments