อาร์เอส มั่นใจปีนี้ธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์โตกว่า 30%

บทความโดย นุชจรี(เพชร)

อาร์เอส มั่นใจปีนี้ธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์โตกว่า 30%

เผยใช้ทีนมาร์เก็ตเป็นตัวผลักดัน


อาร์เอส เปิดแผนธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์และออนไลน์บิสสิเนส ปี 2551 ด้วยผลประกอบการธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ไตรมาสแรกโตขึ้นกว่า 30% ชี้ปัจจัยสำคัญคือการโฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมาย “ทีนมาร์เก็ต” เผยไตรมาสที่ 3 ของปีนี้มีแผนเปิดตัวค่ายเพลงออนไลน์น้องใหม่ ภายใต้ชื่อ “เพลงดอทคอม” เน้นคอนเซ็ปต์การเป็น “ออนไลน์มิวสิคคอมมูนิตี้” แห่งแรกของเมืองไทย หวังขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นในปีนี้อีกด้วย
นายยรรยง อัครจินดานนท์ รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ในปีนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว และคาดว่ามูลค่าตลาดบริการเสริมของปีนี้โตกว่าปีที่แล้ว 10-15 % ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ของอาร์เอสในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2551 มีอัตราการเติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนรายได้ของธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มาจาก บริการเสียงรอสาย(Ring Back Tone) คิดเป็นสัดส่วน 60%, บริการโมบายคอนเทนต์(Mobile Content) คิดเป็น 40% ซึ่งสามารถจำแนกออกได้ดังนี้ เสียงเรียกเข้าแบบทรูโทน(True Tone) คิดเป็นสัดส่วน 39% , บริการฟูลซองดาวน์โหลด(Fullsong Download) คิดเป็นสัดส่วน 26% , บริการฟูลวีดีโอดาวน์โหลด (Full VDO Download) คิดเป็นสัดส่วน 13% เป็นต้น
พร้อมชี้ปัจจัยหนุนที่สำคัญ ได้แก่ ปัจจุบันกลุ่มวัยรุ่นใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้น ประกอบกับโทรศัพท์มือถือที่ราคาถูกก็สามารถใช้บริการโมบายอินเตอร์เน็ตและเชื่อมต่อบลูทูธได้ด้วย รวมถึงคอนเทนต์บันเทิงยังได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในกลุ่มผู้บริโภค จึงส่งผลให้ธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ในปีนี้มีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายยรรยง กล่าวต่อไปว่า “สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของอาร์เอสในปีนี้ทางบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจโมบายบิสสิเนสเป็นธุรกิจหลัก และจะเน้นทำการตลาดในเชิงลึกเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนที่จะเปิดตัว Artist WAP Portal รวมถึง Mobitube ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่กลุ่มเป้าหมายจะสามารถเข้าถึงคอนเทนต์อาร์เอสได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาให้สามารถเข้าเว็บไซต์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ภายในปีนี้ ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย”

ปี 51 รุกธุรกิจออนไลน์บิสสิเนสเต็มสูบ
จากการขยายตัวของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นแต่ละปี และมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2550 มีจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยสูงถึง 13.4 ล้านราย และคาดการณ์ว่าในปี 2551 จะมีจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณ 15.2 ล้านราย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น ทางบริษัทได้หันมารุกหนักในส่วนของธุรกิจออนไลน์บิสสิเนส ซึ่งประกอบไปด้วย 3 เว็บไซต์หลัก ได้แก่ เว็บไซต์ชีซ่าดอทคอม , เว็บไซต์ยูดูเอ็มวีดอทคอม และ เว็บไซต์เพลงดอทคอม โดยแต่ละเว็บไซต์เน้นทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มวัยรุ่นที่ปัจจุบันมีพฤติกรรมหันมาบริโภคสื่อออนไลน์มากขึ้น

เน้นต่อยอดในส่วนของธุรกิจเกมออนไลน์
“เกมออนไลน์” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่อาร์เอสจะใช้ต่อยอดธุรกิจในปีนี้ เนื่องจากเราได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์ภาพรวมของตลาดเกมออนไลน์ในประเทศไทย พบว่าตลาดเกมออนไลน์ในประเทศไทยเป็นตลาดที่โตมาก มีการแข่งขันสูง รวมถึงมีมูลค่าตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 25% ซึ่งในยุคเริ่มต้นของการเข้ามาทำตลาดของเกมออนไลน์ในประเทศไทยในปี 2546 มีมูลค่าตลาดเพียงประมาณ 970 ล้านบาทเท่านั้น และได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2549 ตลาดเกมออนไลน์ในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 2,370 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2550 ที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดเกมออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 2,780 ล้านบาท โดยในปี 2551 นี้มูลค่าตลาดเกมออนไลน์อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท อาร์เอสได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในส่วนนี้จึงทำการเปิดตัว “เกมออนไลน์ชีซ่าไฟท์เตอร์” ขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเกมออนไลน์ที่อาร์เอสพัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก และเป็นเกมแรกที่นำคาแรกเตอร์ของศิลปินจริงๆมาพัฒนาเป็นตัวละครในเกมได้อย่างลงตัว โดยในอนาคตเรามีแผนที่จะเปิดตัวเกมออนไลน์เกมใหม่มากระตุ้นตลาดเกมออนไลน์กันอีกด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะทำการเปิดตัวเกมใหม่ประมาณเดือนตุลาคมของปีนี้ ซึ่งปัจจุบันนี้เกมออนไลน์ชีซ่าไฟท์เตอร์มียอดคนเข้ามาเล่นเกมสูงกว่า 20,000 IP/วัน และในไตรมาสที่ 3 จะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นในส่วนของเกมชีซ่าไฟท์เตอร์ให้คนสามารถเล่นแบบมัลติเพลย์เยอร์ได้ กล่าวคือ ผู้เล่นสามารถเล่นพร้อมกันได้หลายๆคนในห้องเดียวกัน ใช้เพลงโจทย์เพลงเดียวกัน

โฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็น “ทีน มาร์เก็ต”
อีกทั้งปัจจัยที่ทำให้อาร์เอสประสบความสำเร็จในธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์และธุรกิจออนไลน์บิสสิเนสนั้นได้แก่ การโฟกัสไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็น “ทีนมาร์เก็ต” (Teen Market) เนื่องจากเราได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นไทย พบว่า ตลาดวัยรุ่นเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ในภาวะตลาดทั่วไปที่หลายคนมองว่าถึงจุดอิ่มตัว แต่มีกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆที่เกิดขึ้นมาและมีความพร้อมจะจ่ายเงินเพื่อแลกกับสินค้าและบริการที่ตนเองพอใจ ซึ่งตรงกับจุดแข็งของอาร์เอสที่เน้นความเป็นผู้นำตลาดของเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ ที่กล้าคิด กล้าแสดงออก โดยอาร์เอสเริ่มโฟกัสมายังกลุ่มเป้าหมายที่เป็น “ทีนมาร์เก็ต” (Teen Market) ตั้งแต่ปีที่แล้ว เริ่มจากการเปิดตัวค่ายเพลงน้องใหม่ “ค่ายกามิกาเซ่” (Kamikaze) ควบคู่ไปกับการเปิดตัวเว็บไซต์ “ชีซ่าดอทคอม”(Zheza.com) เว็บไซต์คอมมูนิตี้สำหรับเด็กวัยพรีทีนเพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของเด็กในวัยเดียวกันได้เป็นอย่างดี
การเติบโตของเว็บไซต์ชีซ่าดอทคอมที่มีสมาชิกกว่า 9 แสนคน ภายในเวลา 1ปี 2 เดือน และมียอดคนเข้าเว็บไซต์กว่า 50,000 IP/วัน จะเป็นสิ่งที่การันตีได้เป็นอย่างดีว่าตลาดที่เป็น “ทีนมาร์เก็ต” น่าสนใจเพียงใด

เตรียมเปิดตัวค่ายเพลงออนไลน์ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้
ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ทางบริษัทยังมีแผนที่จะเปิดตัว “ค่ายเพลงออนไลน์” แห่งแรกในเมืองไทย ภายใต้ชื่อ เพลงดอทคอม (Pleng.com) ชูคอนเซ็ปต์ความเป็น “ออนไลน์มิวสิคคอมมูนิตี้” ที่มีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเลือดใหม่ทางดนตรีที่มีอายุระหว่าง 15-30 ปี จุดเด่นของเพลงดอทคอมอยู่ที่การคัดเลือกศิลปินให้เข้ามาเป็นศิลปินในสังกัด ด้วยการส่งผลงานเพลงเข้ามาในเว็บไซต์เพลงดอทคอม โดยให้ผู้ฟังทั้งประเทศเป็นคนตัดสินผลงานของศิลปินที่นำเพลงมานำเสนอบนเว็บไซต์ ถ้าผลงานของศิลปินคนใดที่มียอดการดาวน์โหลดถึงเกณฑ์ที่ทางบริษัทกำหนดไว้ก็จะมีสิทธิออกอัลบั้มและเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดทันที ซึ่งลักษณะแบบนี้ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และอาร์เอสมองว่าเพลงดอทคอมจะช่วยขยายฐานของอาร์เอส ทำให้เกิดลูกค้ากลุ่มใหม่ที่อาร์เอสไม่เคยมี รวมถึงมีการทำเพลงแนวใหม่ที่อาร์เอสไม่เคยทำมาก่อนอีกด้วย

Comments