6 ข้อในการสร้างความสุขให้แก่บรรดาผู้ประกอบการ

happy journey

การที่คนเราออกมากเป็นผู้ประกอบการนั้นส่วนใหญ่มันต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่ชอบหรือไม่มีความสุขเมื่อตอนทำงานประจำ บวกกับโอกาส และปัจจัยอีกบางอย่าง เลยออกมาเป็นผู้ประกอบการ วันนี้ผมจะมาพูดถึง 6 ข้อที่จะทำให้ผู้ประกอบการมีความสุข (มากกว่าพนักงานประจำ)

1. การสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานของตัวเอง ที่ๆเรานั่งทำงานแล้วเรามีความสุข ในเมื่อคุณเป็นนายตัวเอง คุณเป็นคนสร้ากฎ ดังนั้นจงสร้างมันให้เอื้อกับการทำงานของคุณให้มากที่สุด เช่น เราไม่ชอบทำงานในห้องปิดเล็กๆ เราก็หาที่นั่งทำงานแบบโล่งตามที่เราชอบได้ ไหนๆก็ออกมาแล้ว ก็หาที่ๆเรานั่งทำงานแล้วมีความสุขดีกว่านะครับ

2. การหาเวลาพักผ่อน เข้าใจนะครับว่าผู้ประกอบการนั้นอยากจะทำงานให้ได้มากที่สุด ทำให้ได้เยอะที่สุด เพราะทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย แต่ยังไงเราก็คนครับ ควรจะหาเวลาพักผ่อนบ้าง ซึ่งมันจะส่งผลดีกับตัวงานที่จะออกมาแบบที่คุณไม่คาดคิเก็เป็นได้ ดังนั้นหาเวลาพักบ้าง จะเป็น 10 นาที หรือ 1 เดือนไปเลย ก็ลองดูครับ ที่สำคัญเราไม่ต้องยื่นใบลาด้วย

3. การให้เวลากับครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ อย่างที่เรารู้กันว่าเจ้าของผู้ประกอบการนั้นอยากจะทำงานให้เสร็จสิ้นในทีเดียว แต่ทั้งนี้เราก็ควรจะหันกลับมามองครอบครัวบ้าง มันจะมีประโยชน์อะไรหากเราประสบความสำเร็จ แต่รอบกายเราไม่เหลือใคร ข้อดีของการเป็นผู้ประกอบการก็คือ เรากำหนดเวลาของตัวเองได้ คือไม่จำเป็นต้องทำ 8.30 น. เลิก 18.00 น. เราสามารถจัดสรรเวลาของเราเองได้ตามต้องการครับ

4. บินเดี่ยวไม่สนุกหรอก เมื่อเราออกมาเป็นผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่เราก็มักจะเหมามันทุกบทบาท แต่ที่จริงแล้วคนเราไม่ได้เก่งไปเสียทุกอย่างครับ เราควรตัดส่วนงานที่เราไม่ถนัดออกไปบ้าง การใช้ outsource ที่ไว้ใจได้ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เหล่าผู้ประกอบการป้ายแดงรับมือกับงานต่างๆได้นะครับ เราจะได้เอาเวลาไปคิดงานอื่นต่อได้ หรือจะพักผ่อนก็ได้ แล้วแต่เลย

5. โปรดยอมรับความล้มเหลว เคยได้ยินมั้ยครับ "คนที่ไม่เคยทำผิด คือคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย" นั่นแหล่ะครับการทำธุรกิจมันก็ย่อมจะมีการผิดพลาดกันบ้าง ไม่ใช่เริ่มทำธุรกิจแรกก็หวังว่าจะประสบความสำเร็จกันเลย มันคงยากน่ะครับ เพราะผู้ประกอบการมือใหม่จะต้องเจอปัญหาที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนไม่เคยเจอ เราจะต้องดีลกับปัญหา หรือความล้มเหลวให้ได้ อย่าไปยึดติดหรือจมอยู่กับมัน เรียนรู้จากมัน ให้มันเป็นประสบการณ์ และเมื่อครั้งหน้าเจอกับปัญหาแบบเดิมอีก เราจะได้มีวิธีรับมืออย่างถูกต้อง

6. เรียนรู้ที่จะปฏิเสธบ้าง พนักงานบริษัทหลายๆคนถูกฝึกให้เป็นมีสเตอร์เยสแมน แต่เมื่อเราเป็นผู้ประกอบการเอง เราก็อาจจะเจอสถานการณ์ที่ในบางครั้งเราก็ยากที่จะปฏิเสธ เช่น ลูกค้าสั่งงานวันนี้ และของานอีกวันนึงเลย เราก็มักจะตอบว่าได้ เพราะเรากลัวว่าจะไม่ได้งาน หรือลูกน้องขอเพิ่มเงินเดือน เราก็อาจจะไม่กล้าปฏิเสธเพราะกลัวมันหนีไม่ช่วยงานเรา แต่อย่าลืมนะครับว่าเราทำธุรกิจ ไม่ใช่การกุศล ดังนั้นในบางโอกาสที่จำเป็นเราก็อาจจะต้อง say no กันบ้างนะครับ

โปรดจำไว้ว่าการเป็นผู้ประกอบการไม่ใช่เป้าหมาย แต่มันคือเส้นทางที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย หากระหว่างทางเราเดินแบบไม่มีความสุข แล้วเราจะเดินไปได้ไกลสักแค่ไหน จงเดินอย่างมีความสุขกันนะครับ อ่อ อย่างที่บอกว่ามันเป็นแค่เส้นทางเดิน นั่นหมายถึงคนที่ไม่ได้เลือกเส้นทางนี้ก็สามารถที่จะไปถึงเป้าหมายได้เหมือนกันนะครับ บางคนอาจจะถนัดในการเป็นพนักงานบริษัทมากกว่า เขาก็แค่เดินทางนั้นเพื่อไปสู่เป้าหมาย

ข้อมูลโดย entrepreneur.com
เรียบเรียงโดย แอดมิน NP

Comments