Case Study: สร้างรายได้ 30,000 บาท ใน 1 อาทิตย์

นี่เป็นกรณีศึกษา หรือ Case study ของผมที่สามารถสร้างรายได้ 30,000 บาท ในระยะเวลา 1 สัปดาห์ครับ อาจจะไม่ได้เยอะอะไรมากมาย แต่ผมว่ามันน่าสนใจอยู่เหมือนกันครับ รายได้ส่วนนี้มาจาก e-commerce ล้วนๆเลยครับ และมาจากสินค้าเพียง 2 sku เท่านั้น และที่สำคัญคือ ผมไม่ได้เสียเงินโฆษณาแม้แต่บาทเดียว ฟังดูแล้วมันดูดีใช่มั้ยครับ เอาเป็นว่าเราไม่ต้องสนใจว่าผมทำรายได้ๆเท่าไหร่ แต่ประเด็นที่อยากให้สนใจกันก็คือ การเลือกสินค้ามาขาย และช่องทางการโปรโมทสินค้ามากกว่าครับ เพราะในกรณีนี้สินค้ามันขายตัวมันเองได้สบายๆอยู่แล้ว คือมีคู่แข่งน้อยมาก สินค้าตัวนั้นก็คือ "ปากกา Lamy Brown Limited Edition" นั่นเองครับ

Lamy Brown for Post

ลองมาดูที่ตัวสินค้ากันนะครับ Lamy Brown Limited Edition มีทั้งหมึกซึมและหมึกแห้ง ก็เห็นๆกันอยู่แล้วว่ามันเป็น Limited Edition คือมีจำนวนจำกัด เปิดขายในระยะเวลาจำกัด บวกกับแบรนด์ Lamy เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม มีความน่าเชื่อถือมาก และเป็นปากกาที่มีคนเก็บสะสมอยู่แล้วจึงช่วยเสริมให้สินค้าตัวนี้โดดเด่นขึ้นมามาก เรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงมากครับ เมื่อตอนเปิดตัว 100 ด้ามแรกที่ร้าน "Garosu-gil" ประเทศเกาหลี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม มันถูกขายหมดไปภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น!!!

ทีนี้ก็ลองมาดูต่อที่ช่องทางการโปรโมทกัน ผมเลือกใช้ช่องทางฟรีที่มันมีอยู่ตามท้องตลาดดังนี้

1) Kaidee.com
2) Pantipmarket.com
3) Facebook.com/perdtai
4) Facebook.com/monafashionshop
5) และก็ Network จากเพื่อนๆ ให้เพื่อนบอกต่อให้

ผมใช้เพียงช่องทางเหล่านี้เท่านั้น เชื่อมั้ยครับ ผมยังไม่ทันบินกลับมายังประเทศไทยเลย ก็มีคนติดต่อมาเพื่อขอซื้อเจ้าปากกาชุดนี้แล้ว นี่ไงครับที่บอกว่าการเลือกสินค้ามันก็สำคัญ ในกรณีนี้ผมเกือบจะเรียกได้ว่าปราศจากคู่แข่งเลยครับ มันหายากมากจริงๆ แต่ก็ใช่ว่าช่องทางเหล่านี้จะได้รับการตอบรับดีทั้งหมดนะครับ มันมีเพียงบางช่องทางเท่านั้นแหล่ะครับที่มันลงแล้วเวิร์ค จากที่ได้ทดสอบกับสินค้าชุดนี้ ผมขอจัดอันดับดังนี้

1) Network จากเพื่อนๆ
2) Kaidee.com
3) Facebook.com/monafashionshop
4) Facebook.com/perdtai
5) Pantipmarket.com

ช่องทางที่ได้จากเพื่อนบอกต่อเพื่อนเป็นช่องทางที่แข็งแกร่งจริงๆครับ หากมีสินค้าที่ดีอยู่แล้วบวกกับมีเพื่อนแนะนำ โอกาสการขายของได้ก็ยิ่งสูงครับ ส่วน Kaidee ส่งผลตอบรับที่ดีใช้ได้เลยครับ คือ ช่องทาง Kaidee.com เนี่ย เป็นช่องทางที่ได้รับผลตอบรับที่รวดเร็วที่สุด คือลงปุ๊บมีคนมาถามปั๊บ ส่วนแฟนเพจทั้งสองนั้นผมยังพอมีฐานคนลูกค้าเก่าอยู่บ้าง แต่เชื่อมั้ยล่ะครับว่า Pantipmarket ส่งผลกับยอดขายน้อยที่สุดเลยครับ ผมคาดว่าอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ใน Pantipmarket ก็ได้ และผมคงยังไม่รีบสรุปว่าช่องทาง Pantipmarket จะไม่เวิร์คนะครับ อาจจะต้องลองดูสินค้าตัวอื่นๆดูด้วยเช่นกัน

นี่ก็เป็นกรณีศึกษาของผมเองที่อยากจะแชร์ให้กับเพื่อนๆ เผื่อว่ามันจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะครับ

หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ขอสักไลค์ให้กับเพจด้วยนะครับ

Comments