ชวนคุยเรื่อง Balance ชีวิต (Work Life Balance)

 

Work Life Balance วลีนี้เป็นวลีที่ฮิตกันอยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆก็มีบางคนที่ทำได้ และอีกหลายๆคนก็ทำไม่ได้ โดยส่วนตัวของผมเอง ผมว่ามันขึ้นอยู่กับนิยามคำว่า Balance ว่าคืออะไร แบบไหนที่เรียกว่า Balance บางคนอาจจะบอกว่า เราต้องมีเวลาไปเที่ยวบ้าง ใช้ชีวิตบ้าง แต่บางคนอาจจะบอกว่าเที่ยวไปทำงานไปก็โอนะ หรือบางคนอาจจะอยากต่อรองเป็นทำงานที่ออฟฟิศ 3-4 วัน ส่วนอีก 1-2 วันสามารถไปนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ แต่สำหรับบางคนทึ่บอกว่า Work Life Balance มันไม่มีอยู่จริงหรอก เขาอาจจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตไปกับงาน หรือธุรกิจของเขาเอง อาจจะด้วยความรับผิดชอบ​ หรือเขารักในสิ่งที่ทำ หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้เขาอาจจะไม่มีเวลาแม้กระทั่งนั่งดูทีวีกับคนในครอบครัวก็เป็นได้ 

ทีนี้เราลองมาดูว่าในแต่ละวัน เราใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง เอาเป็นว่าอันนี้ขอนำเสนอตารางแบบคนทั่วไปแล้วกันครับ 

+ นอน 7 ชม.
+ ทำงานในแต่ละวันก็ปาไป 8-9 ชม.ละ
+ เดินทางไปกลับอีก 2 ชม.
+ กินข้าวเย็นอีก 1-2 ชม.
+ บางคนต้องทำงานบ้านอีก 2 ชม.
+ เราจะเหลือเวลาอีกประมาณ 2-4 ชม. ที่เป็นของเราเองจริงๆ 

และใน 2-4 ชม.นี้มีการถูกใช้ยังไงบ้าง บางคนดู หนังดูละคร บางคนออกไปเจอเพื่อน บางคนเล่นเกมส์ แต่ก็จะมีบางคนที่ต้องทำงานล่วงเวลา มีงานที่ต้องรับผิดชอบที่จำเป็นต้องเฝ้าดูในช่วงดึกๆ หรือบางคนก็หาความรู้เพิ่มเติม ลองสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นทางเลือกของแต่ละบุคคลว่าจะเอาเวลาไปทำอะไรกันบ้าง (ถึงแม้บางทีจะเลือกไม่ได้ก็ตาม) 

หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของผมนะครับ ผมเองก็มีเวลาที่ไม่ต่างจากข้างต้นมากนัก มีเวลาหลังจากกลับมาถึงบ้านประมาณ 2-4 ชั่วโมง มีอยู่ช่วงนึงที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำงานแบบทุ่มเทแบบสุดๆ เทเวลาที่เหลือไปให้กับงาน ช่วงแรกๆของการดำเนินชีวิตแบบนั้น มันก็ยังโอเคนะ เอ็นจอยกับงานมาก ในหัวคิดแต่เรื่องของงาน แต่พอมาสักระยะนึงพลังงานมันเหมือนโดนสูบไปอย่างรวดเร็ว จนถึงขั้น Burn out กันเลยทีเดียว สุดท้ายต้องหันมามองดูว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเวิร์คจริงหรอ ทั้งกับงานและคนรอบตัวเรา กับครอบครัวของเรา (แต่ผมโชคดีที่คนรอบตัวผมเข้าใจ และคอยให้กำลังใจ) 

พอผมหันกลับมามองคนที่คอยอยู่เคียงข้าง ผมรู้สึกเลยว่าผมได้เอาเปรียบเขาอยู่ และนอกจากที่ละเลยคนข้างกายแล้ว ผมว่ามันยิ่งทำให้สมองเราไปโฟกัสในปัญหาต่างๆจนไม่ได้มีเวลาไปคิดในสิ่งที่ควรจะคิด ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และไม่เหลือพลังในการทำงานไปในที่สุด  เอาจริงมันมีผลยาวไปถึงวันเสาร์อาทิตย์เลยครับ ผมไม่สามารถแงะงานออกจากหัวได้ สิ่งที่ผมเลือกทำก็คือ ผมเลือกใช้เวลา 2-4 ชั่วโมงที่มีอยู่กับคนรอบๆตัวผม แค่ได้นั่งดูละครด้วยกัน นั่งคุยกัน มันก็รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะ อย่างน้อยก็ทำให้ผมมีแรงจะลุกไปทำงานได้ในแต่ละวัน และสิ่งนี้เองอาจจะเป็น Work Life balance ของผมก็ได้ ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกับของใครอีกหลายคน 

สุดท้ายของการชวนคุยในครั้งนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะเจอความสมดุลย์ในชีวิตของตัวเองดันนะครับ แต่หากมันไม่มีสมดุลย์จริงๆ วิธีแก้คือ ทำตัวเองให้รักในสิ่งที่ทำครับ ถ้าทำได้ คุณจะไม่รู้สึกว่านั่นคือการทำงานเลย (พูดง่ายแต่ทำยากจริงๆ) 

หากเห็นว่าเนื้อหานี้เป็นประโยชน์ ช่วยกดติดตามเพจ NPMESTORY ด้วยนะครับ หรือทาง Line ที่ @npmestory ขอบคุณครับ

Comments