การตั้งเป้าหมายยังจำเป็นสำหรับคนวัย 40+ มั้ย และเป้าหมายที่ดีควรเป็นอย่างไร?
เคยถามกับตัวเองกันมั้ยครับว่า คนที่วัย 40+ (อย่างเรา)เนี่ย ยังต้องกำหนดเป้าหมายอยู่มั้ย เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะมาชวนคุยกันเรื่องเป้าหมายกันครับ
เริ่มด้วยเรามาดูกันก่อนว่า เป้าหมายนั้นสำคัญไฉน
การวางเป้าหมายเป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาตนเองและการดำเนินชีวิตให้มีทิศทางที่ชัดเจน เป้าหมายช่วยให้เรามีแรงจูงใจและความมุ่งมั่นในการทำงาน นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถวัดผลและปรับปรุงตนเองได้ เป้าหมายที่ดีจะเป็นเข็มทิศนำทางให้เราก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องและสามารถบรรลุความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมายไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องการหาเงิน หรือทำธุรกิจเสมอไป
ตัวอย่างของการตั้งเป้าหมายชีวิต
- เป้าหมายด้านการศึกษา: ตั้งเป้าหมายที่จะจบการศึกษาระดับปริญญาตรีภายใน 4 ปีด้วยเกรดเฉลี่ย 3.5 ขึ้นไป
- เป้าหมายด้านการงาน: ตั้งเป้าหมายที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดการภายใน 5 ปี และพัฒนาทักษะการบริหารทีมให้ดียิ่งขึ้น
- เป้าหมายด้านสุขภาพ: ตั้งเป้าหมายที่จะออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโลกรัมภายใน 6 เดือน
- เป้าหมายด้านการเงิน: ตั้งเป้าหมายที่จะออมเงินให้ได้ 20% ของรายได้ในแต่ละเดือน เพื่อมีเงินเก็บสำรองใช้ในยามฉุกเฉิน
- เป้าหมายด้านความสัมพันธ์: ตั้งเป้าหมายที่จะใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนมากขึ้น โดยการจัดเวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในสัปดาห์สำหรับกิจกรรมร่วมกัน
เรารู้มั้ยว่า ไอ้เจ้าเป้าหมายที่ดีเนี่ย มันเป็นอย่างไร เรามาดูกัน
เป้าหมายที่ดีควรมีลักษณะเฉพาะและชัดเจนเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ โดยเป้าหมายควรเป็น SMART Goals:
- Specific (ชัดเจน): เป้าหมายควรชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เช่น "ต้องการเพิ่มรายได้จากการรีวิวสินค้าเป็น 20,000 บาทต่อเดือน" , "ต้องการลดน้ำหนัก 2 กิโลกรัมให้ได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน"
- Measurable (วัดผลได้): เป้าหมายควรมีเกณฑ์วัดผลได้ เช่น "เพิ่มจำนวนผู้ติดตามใน Facebook Page เป็น 10,000 คนภายใน 6 เดือน"
- Achievable (สามารถบรรลุได้): เป้าหมายควรมีความท้าทายแต่ยังสามารถบรรลุได้ เช่น "เริ่มต้นการเทรดในบัญชีจริงด้วยเงิน 5,000 บาทและตั้งเป้าหมายให้ได้กำไร 10% ภายใน 3 เดือน"
- Relevant (เกี่ยวข้องและสำคัญ): เป้าหมายควรเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ เช่น "เรียนรู้ทักษะการตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่มรายได้จากงานเสริม"
- Time-bound (มีระยะเวลาชัดเจน): เป้าหมายควรมีกรอบเวลา เช่น "ตั้งเป้าหมายให้มีรายได้เดือนละ 30,000 บาทภายใน 1 ปี"
ทำไมวัย 40 ขึ้นไปยังควรจะต้องทำเป้าหมาย
แม้ว่าอายุจะเพิ่มขึ้นถึง 40 ปีขึ้นไป การตั้งเป้าหมายยังคงมีความสำคัญอย่างมากอยู่นะ เนื่องจาก 👇:
- การเตรียมตัวสำหรับอนาคต: การวางแผนเพื่อการเกษียณ การออมเงิน และการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงในอนาคต
- การพัฒนาตนเอง: การเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และความสำเร็จในชีวิต
- การจัดการหนี้สินและการเงิน: การตั้งเป้าหมายในการจัดการหนี้สินและการเงินจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน
การตั้งเป้าหมายชีวิตสำหรับคนอายุ 40 ขึ้นไปมีความสำคัญอย่างมากในการรักษาความสุขและความพึงพอใจในชีวิต รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้จะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการดำเนินชีวิตและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
การตั้งเป้าหมายที่ดี เหมือนเรามีเข็มทิศที่ดี ซึ่งหนังสือ "The 4-Hour Workweek" ของ Timothy Ferriss หรือ Tim Ferriss ได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดย Ferriss แนะนำให้เราเลิกยึดติดกับวิธีการคิดแบบเดิมๆ และตั้งคำถามกับความเชื่อที่เราถูกสอนมาเกี่ยวกับการทำงานและการใช้ชีวิต เพื่อที่จะสามารถออกแบบชีวิตที่เราต้องการได้จริงๆ
แนวคิดหลัก
1. การกำหนดเป้าหมายชีวิต (Dreamlining):
- Dreamlining คือการเขียนรายการสิ่งที่คุณอยากเป็น อยากทำ และอยากมีภายใน 6 และ 12 เดือน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มนี้
- ตัวอย่าง: สิ่งที่อยากเป็น (เช่น เรียนรู้การพูดภาษาสเปน), สิ่งที่อยากทำ (เช่น การดำน้ำลึก), และสิ่งที่อยากมี (เช่น รถยนต์สปอร์ต)
- จากนั้นคำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับแต่ละรายการ และหาวิธีที่จะทำให้เป้าหมายเหล่านั้นเป็นจริงได้
2. เปลี่ยนแปลงวิธีคิดเกี่ยวกับการทำงาน:
- Ferriss แนะนำให้เราละทิ้งความคิดที่ว่าการทำงานหนักเป็นสิ่งที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จ
- เน้นไปที่การทำงานที่มีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องทำงานหนักมาก
3. การตั้งคำถามและท้าทายความเชื่อ:
- ตั้งคำถามกับสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นความจริง และค้นหาคำตอบใหม่ๆ
- ตัวอย่างเช่น แทนที่จะถามว่า "ฉันจะหาเงินล้านได้อย่างไร" ให้ถามว่า "ฉันจะใช้ชีวิตแบบเศรษฐีได้อย่างไรโดยมีรายได้เท่านี้"
4. การกำหนดเป้าหมายอย่างละเอียด:
- เป้าหมายต้องมีความเฉพาะเจาะจง วัดผลได้ และกำหนดเวลาอย่างชัดเจน
- ตัวอย่างเช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่า "ฉันอยากจะสุขภาพดีขึ้น" ให้ตั้งเป้าหมายว่า "ฉันจะลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมภายใน 3 เดือนด้วยการออกกำลังกาย 3 ครั้งต่อสัปดาห์และกินอาหารคลีน"
5. การระบุ "Muse" หรือธุรกิจต้นแบบ:
- Muse คือธุรกิจหรือกิจกรรมที่สามารถสร้างรายได้และให้คุณมีอิสระในการใช้ชีวิต
- ตัวอย่างเช่น การสร้างธุรกิจออนไลน์ที่สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องใช้เวลามาก หรือการขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต
มาดูตัวอย่างกัน
สมมติว่าคุณอยากจะมีชีวิตที่อิสระและไม่ต้องทำงานประจำแบบเดิม คุณอาจจะเริ่มด้วยการทำ Dreamlining โดยระบุสิ่งที่คุณอยากเป็น อยากทำ และอยากมี:
- สิ่งที่อยากเป็น: ผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่น
- สิ่งที่อยากทำ: ท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 เดือน
- สิ่งที่อยากมี: ร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ ของตัวเอง
จากนั้นคำนวณค่าใช้จ่ายและหาวิธีที่จะทำให้เป้าหมายเหล่านี้เป็นจริง เช่น การเรียนทำอาหารออนไลน์ การออมเงินสำหรับการเดินทาง และการศึกษาตลาดสำหรับการเปิดร้านอาหาร
Ferriss ย้ำว่า การกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนและการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการสร้างชีวิตที่คุณต้องการ บทนี้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการทำงานน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์มากขึ้นในภายหลัง
หากสนใจ สั่งซื้อหนังสือ เข้าไปได้ที่ >> @npmestory แล้วกดที่ "มุมหนังสือ" ตรงเมนู
====ช่องทางติดตาม====
Facebook: https://www.facebook.com/NPmeStoryPage
Blockdit: https://www.blockdit.com/npmestory
Comments
Post a Comment