GDP คืออะไร? ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึง
เวลาอ่านข่าวเศรษฐกิจ คุณอาจเคยเจอประโยคประมาณว่า “GDP โต 3%” หรือ “GDP ติดลบ เศรษฐกิจหดตัว”
ที่มาของ GDP
GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product หรือภาษาไทยเรียกว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
พูดง่าย ๆ ก็คือ มูลค่าของทุกอย่างที่คนในประเทศผลิตขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็น…
- โรงงานผลิตมือถือ
- ร้านกาแฟขายลาเต้
- ช่างทำผมเปิดซาลอน
- หรือแม้แต่รถเข็นขายส้มตำหน้าปากซอย
ถ้ามันเกิดขึ้นในประเทศเรา และมีการแลกเปลี่ยนเป็นเงิน มันก็ถูกนับรวมใน GDP ทั้งนั้น
ใครเป็นคนคิด?
ผู้ที่คิดค้นแนวคิด GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) คือนักเศรษฐศาสตร์ชาวรัสเซียชื่อ ไซมอน คุซเนตส์ (Simon Kuznets) ซึ่งได้นำเสนอวิธีการวัดดัชนีที่ต่อมาพัฒนาเป็น GDP ในรายงาน 'National Income, 1929-1932' ที่เสนอต่อสภาคองเกรสสหรัฐอเมริกาในปี 1934 เพื่อวัดขนาดเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ
การคำนวณ GDP
มีอยู่หลายสูตร แต่หลัก ๆ จะมี 3 วิธี (อย่าตกใจ มันง่ายกว่าคิดบิลค่าอาหารเย็นอีก 😆)
1. วิธีการใช้จ่าย (Expenditure Approach)
สูตร: GDP = C + I + G + (X – M)
- C = การบริโภคของประชาชน (ซื้อเสื้อผ้า มือถือ ชาบู ฯลฯ)
- I = การลงทุน (เช่น บริษัทสร้างโรงงานใหม่)
- G = การใช้จ่ายของรัฐบาล (สร้างถนน จ้างคนทำงาน)
- X = ส่งออก (ขายทุเรียนไปจีน)
- M = นำเข้า (ซื้อ iPhone จากอเมริกา)
👉 ยกตัวอย่าง: ถ้าคนไทยทั้งประเทศรวมกันปีนี้ใช้จ่ายไป 10 ล้านล้าน ลงทุน 2 ล้านล้าน รัฐทุ่มอีก 3 ล้านล้าน ส่งออกได้ 5 ล้านล้าน แต่นำเข้า 4 ล้านล้าน
GDP = 10 + 2 + 3 + (5 – 4) = 16 ล้านล้านบาท
2. วิธีรายได้ (Income Approach)
นับจากรายได้ที่คนในประเทศได้รับ เช่น ค่าจ้าง กำไร ดอกเบี้ย ค่าเช่า
👉 ง่าย ๆ คือ นับว่าคนทำงานได้เงินเท่าไหร่รวมกัน
3. วิธีมูลค่าเพิ่ม (Production Approach)
นับจากมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนการผลิต
ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน สุดท้ายก็ได้ตัวเลข GDP ใกล้เคียงกัน
ลำดับการประกาศ GDP ในสหรัฐอเมริกา
อเมริกาเขาเป็นประเทศสายด่วน (แต่ไม่ใช่เบอร์สั่งพิซซ่า 🤭) เวลาออก GDP เขาออกทีละรอบ 3 ชั้น
- Advance GDP → ตัวเลขด่วนจี๋ (ออกเร็วที่สุด แต่ข้อมูลยังไม่ครบ)
- Preliminary GDP (Prelim GDP) → ตัวเลขเบื้องต้นที่แม่นขึ้น (อัปเดตจากข้อมูลเพิ่ม)
- Final GDP → ตัวเลขรอบสุดท้าย ใกล้เคียงของจริงที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น:
- Advance GDP บอกว่า Q1 โต 2.5%
- Prelim GDP อัปเดตใหม่ กลายเป็น 2.8%
- Final GDP ออกมาเป๊ะ ๆ ที่ 3.0%
สรุปแบบชิล ๆ
- ถ้า GDP โต = คนใช้เงินเยอะ บริษัทลงทุนเพิ่ม ตลาดคึกคัก
- ถ้า GDP ติดลบ = คนรัดเข็มขัด ใช้จ่ายน้อย บริษัทชะลอ
Comments
Post a Comment