ผมทดลองการเทรดแบบเป็นระบบมาได้ 3 เดือน มาดูผลกัน
ผมคิดว่าผมเจอทางของตัวเองแล้ว หลังจากลองเทรดท่านั้นท่านี้มาสักพักใหญ่ๆ สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปมาว่า ผมเป็นคนเทรดไม่เก่ง ด้วยอายุ 46 ที่ไม่ได้มีงานประจำ ก็เริ่มแอบหนักใจเหมือนกันครับว่าจะไปทางไหนดี
และแล้วก็ได้มาเจอไอเดียเกี่ยวกับระบบการเทรดแบบ Grid จากเพจ Meawbin Investor - เทรด ลงทุน เชิงกลยุทธ์ ทำให้ผมเริ่มเห็นแสงสว่างสำหรับคนเทรดไม่เก่งอย่างผม
ผมได้รู้จักกับสมการด้านล่างนี้
Return = Cash + Beta + Alpha
ซึ่งเป็นแนวคิดของคุณ Ray Dalio นักลงทุนชื่อดังระดับโลกและผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเขามีนิยามความหมายแต่ละตัวแปรในสมการเอาไว้ยาวเหยียด ซึ่งหาอ่านเอาได้ในเว็บไซต์นะครับ
ผมไม่ได้เอาความหมายตรงๆมาใช้ แต่สรุปเป็นแบบของตัวเอง เพื่อเอามาบริหารพอร์ตของผมเองครับ
Cash = แหล่งรายได้อื่นๆ เช่น งานประจำ (ถ้ายังทำอยู่) งานจ้าง งานฟรีแลนซ์
Beta = รายได้จากพอร์ตที่มีความเสี่ยงไม่มาก ประมาณเดียวกับตลาด เช่น พอร์ต Grid system หรือ Re-balance
Alpha = รายได้จากพอร์ตที่มีความเสี่ยงสูงกว่า Beta แต่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงมากด้วยเช่นกัน เช่น พอร์ตเทรดแบบ Day trade, Momentum trade หรือ Copy trade
CASH:
ด้วยผมเป็นคนไม่มีงานประจำ ทำให้ในส่วนของ Cash ของผมมีอยู่อย่างจำกัดมาก ผมพยายามที่จะหาเงินมาเติมในช่องทางนี้อยู่ เอาไว้จะมาอัพเดตให้ฟังอีกทีนะครับ
BETA:
เมื่อพูดถึง Beta ผมจะนึกถึงแค่สองระบบคือ Grid system และ Re-balance โดยเฉพาะระบบ Grid เป็นระบบที่ผมชอบมาก เพราะผมจะได้ไม่ต้องไปสนใจว่าราคาจะวิ่งไปทิศไหน และสามารถดึงเงินออกมาใช้ได้ พูดง่ายๆคือ เป็นเครื่องผลิต Cash flow นั่นเอง แต่เราจะต้องท่องไว้ในใจว่าระบบ Grid ไม่ทำให้เรารวย!!!
และตามนิสัยเดิมครับ ได้ความรู้มาใหม่ก็รีบไปลองเลยทันที ผลคือพอร์ตแตกกระจายเลยครับ เพราะตอนลองตอนนั้น ไปเล่นกับตลาดทอง ซึ่งถ้าราคามันลง เราจะติดลบมากขึ้นไปเรื่อยๆ และก็ไม่ได้คำนวณเผื่อไว้ เลยพอร์ตแตกไปตามระเบียบเลยจ้า
บทความที่เกี่ยวข้อง:
+ มาทำความรู้จักระบบ Grid Trading กัน
+ ลองสร้าง Grid Trading System เวอร์ชั่นแรก "Trader Padawan 01" และผลของมัน
ทีนี้ก็มานั่งนึกๆดูว่า่ตลาดอะไรนะที่เวลาราคาลง มันจะไม่ลากขาดทุนลงตามไปด้วย ก็เลยมาลงที่ Spot Crypto ซึ่งหากเราเข้าที่ราคานึงไว้ แล้วราคามันร่วงลง การขาดทุนจะไม่ถูกลากลงมาด้วย ผมเลยอยากจะลองเทรดระบบ Grid ที่ตลาด Crypto และด้วยความเป็นด้อมของพี่ศรีสยาม จากช่อง Srisiam ผมเลยเลือกใช้โบรก OKX
สมัคร OKX ได้ที่ >> https://okx.com/join/76339734 (เป็นการ Refer จากผมเอง ใครสมัครผ่านลิงค์นี้จะขอบพระคุณมากๆครับ)
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ผมไม่ได้กระโดดเข้าในทันที แต่ใช้วิธีเปิดพอร์ต Demo แล้ว Run Bot ดูก่อน ดูว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร ซึ่งใน OKX มีให้ผมลองครับ ผม Run Bot 1 เดือนเพื่อทดสอบครับ และเดือนนั้นน่าจะมีการวิ่งขึ้นลงเยอะ เลยได้ผลตอบแทนสูงถึง 2%
ทีนี้ก็ลองมาเปิดพอร์ตจริงกัน เดือนแรกเปิดไป 1 ตัว (Grid BOT) ได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.8% เดือนที่สองเปิดขึ้นอีก 1 ตัว ผลประกอบการรวมอยู่ที่ 0.7% เดือนที่ 3 เปิดใช้อีก 2 ตัวเลย ผลประกอบการรวมอยู่ที่ 1% แต่จริงๆแล้ว 2 ตัวที่เพิ่มมา มันมีรายละเอียดนิดนึงคือ ผมไม่ได้เปิดตั้งแต่ต้นเดือน อันที่จริงน่าจะเปิดใช้ปลายๆเดือนด้วยซ้ำ เดี๋ยวรอดูผลเดือนนี้อีกทีว่าจะอยู่ที่กี่%
และพอเข้าเดือนที่สอง ก็ลองวางแผนจะเปิดร้านทอง (ใช้ระบบ Grid กับสินค้าทอง) แต่การใช้ Grid Bot แบบ Crypto มันไม่สามารถทำได้ง่ายๆแบบนั้น โบรกเกอร์แต่ละเจ้าไม่ได้มี Function นั้นเอาไว้ให้ ส่วนใหญ่ที่เขาทำกันก็คือ การสร้าง Bot ที่ Meta Trader ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเทรดอีกที ซึ่งขั้นตอนจะยุ่งยากและมีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีก และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย ผมก็เลยตั้งใจว่าจะใช้เป็นเทรดมือแทน
ผมเริ่มต้นวางแผนโดยการกางโซนราคาที่จะเล่นเอาไว้ 2,400 - 3,000 โดยประมาณ หลังจากนั้นผมก็กำหนดจุดที่จะ Take action หรือขนาดของ Gap เอาไว้ที่ 300 จุด หรือทุกๆราคา $3 ผมจะทำการซื้อหรือขาย โดยจำนวน lot ที่ใช้คือจำนวนที่ต่ำที่สุดคือ 0.01
ทีนี้ผมก็วาง Worst case scenario คือ ราคาวิ่งลงอย่างไม่พักเลย ถ้าผมเข้าไปซื้อที่ราคา $3,000 และมีการไล่ซื้อตามมาเรื่อยๆ เมื่อราคาลงมาถึงราคา $2,400 ผมจะต้องมีเงินในระบบทั้งหมดอยู่ที่ $60,000 หรือประมาณ 2 ล้านบาท ... โอ้แม่เจ้า 😱 เห็นตัวเลขแล้วถอดใจเลย
แต่แล้วทางของผมก็เปิด ผมก็นึกขึ้นได้ว่ามีพอร์ต Cents อยู่ในโลกนี้ และก็มาเจอ Vantage ที่มีพอร์ต Cents ให้ผมได้เล่น แถมยังได้ Swap free อีกต่างหาก และเมื่อเป็นพอร์ต Cents จากงบที่ต้องมี $60,000 ก็จะเหลือแค่ $600 เท่านั้น แน่นอนกำไรที่ได้ก็จะเป็นหลัก Cent ไปด้วย
เปิดพอร์ตกับ Vantage ได้เลย >> VANTAGE (เป็นการ Refer จากผมเอง ใครสมัครผ่านลิงค์นี้จะขอบพระคุณมากๆครับ แล้วเดี๋ยวผมแนะนำคนดูแลให้)
สุดท้ายร้านทองผมเริ่มมาเปิดได้จริงเอาเดือนที่ 3 ด้วยงบ 50,000 USC สารภาพว่าตอนเทรด Grid แรกๆ เล่นเอามึนๆ งงๆ อยู่เหมือนกันนะ แต่เทรดไปสักพักก็จะเริ่มชิน และเริ่มพลิกแพลงรวบโซนบ้าง เข้าหลายไม้บ้าง เข้าซ้ำบ้าง และผลประกอบการทั้งเดือนสร้างกระแสเงินสดอยู่ประมาณ 12% จัดว่าไม่ขี้เหร่เลยนะ แต่ Drawdown ซัดไป 68.9% อันนี้ก็เยอะมากอยู่
Drawdown ที่เกิดขึ้นหนักๆเพราะเรามีการอัดไม้อยู่ในช่วงราคาหนึ่ง แล้วคิดว่ามันจะขึ้น(หรือลง) แต่ผลดันออกมาตรงกันข้าม ทำให้เรามีไม้ค้างที่ยอดอยู่เยอะ
และอีก 1 BETA พอร์ตของผมอยู่ที่ Bitkup ซึ่งผมทำ Re-balance กับเหรียญ BTC ตัวเดียวเลย ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าของพอร์ตนี้ลดลงไปประมาณ 6.23% เป็นช่วงราคาของ BTC อยู่ในช่วงออกข้าง แต่ในเดือน พ.ย. เกิดอะไรขึ้น เอาไว้มาอัพเด็ตอีกที
ALPHA:
ผมแบ่งเป็นเทรดมือ กับ Copytrade โดยเทรดมือนั้นผมเริ่มที่ 50 USD หรือ 5,000 USC จบเดือนแรกได้กำไรดีทีเดียว หลังจากนั้นพอร์ตก็พินาศไปหลายรอบเลยทีเดียว จนผมปล่อยพอร์ตเทรดมือไปอย่างนั้นก่อน แล้วหันมาดูที่ Copytrade โดยลอง Copy ดูสักคน ด้วยงบเท่ากับเทรดมือ คือ 5,000 USC
ความโชคดีคือ ผมเลือก Copy ได้ถูกคนในครั้งแรก (ทำให้มีประสบการณ์ที่ดีกับการ Copytrade) ทำกำไรไปประมาณ 10%
เดือนถัดมา (ก.ย.) ก็ได้เพิ่มทุนให้คนนั้นไปอีก 5,000 USC และ Copy เพิ่มอีก 1 คนดู ผลคือ คนเดิมทำกำไรไปได้ประมาณ 8% ส่วนอีกคนทำพอร์ตระเบิดไปเลย
เดือนตุลาคม มีการเพิ่มงบให้กับคนเดิมคนดีที่ทำเงินไปอีก 10,000 USC และ Copy เพิ่มอีก 1 ที่มีเพื่อนผมเป็น Master เอง ให้งบไปที่ 5,000 USC ผลประกอบการที่ได้คือ คนดีคนเดิมทำได้ +11% ส่วนของเพื่อนทำกำไรได้ 0.34% (ต้องบอกว่าผมมา Copy ตอนปลายๆเดือนตุลาคม รายได้เลยยังไม่มากพอ)
ผมได้มีกำหนดแผน Copytrade เอาไว้ คือ กำไรต่อเดือนจะต้องไม่ต่ำกว่า 5% ในภาพรวม ซึ่งเดี๋ยวผมจะเอาไปคำนวณอีกทีว่า หากผมต้องการจะได้รายได้รายเดือนตามที่ผมต้องการ ผมจะต้องวางเงินทุนที่เท่าไหร่
หลังจากลองการเทรดเป็นระบบมา 3 เดือน พบว่าผลประกอบการค่อนข้างคงที่กว่าตอนผมเทรดมือ ต้องบอกเลยว่าเทรดมือถ้าจังหวะดี กำไรมันสูงกว่านี้เยอะเลยนะ ผมเคยทำได้จาก 100 USD ไป 900 USD ภายใน 2 เดือนครึ่ง แต่หลังจากนั้นพอร์ตกลับมาแตกภายในไม่ถึง 1 เดือน เล่นเอาท้อไปเหมือนกัน จนผมยอมรับตัวเองว่าผมเทรดไม่เก่ง ควรหาคน หรือระบบที่ทำผลงานได้ดีกว่าผม บริหารให้ผลงานออกมาคงที่ แล้วค่อยๆเพิ่มงบประมาณเข้าไป และอีกส่วนที่ผมยังขาดไปคือ ส่วนของ Cash ที่ยังหาไม่ได้เยอะ ซึ่งยังคงต้องหาทางกันต่อไป
Comments
Post a Comment